นายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเตรียมป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากไฟป่า และเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยป่า จึงได้กำหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเขตควบคุมไฟป่า และได้กำหนดมาตรการในการป้องกันไว้ดังนี้ เมื่อมีความจำเป็นต้องเผาไร่ วัชพืชในที่ดินทำกินให้ราษฎรผู้ครอบครองที่ดินต้องขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองนั้นๆก่อนดำเนินการทุกครั้ง พร้อมกับต้องทำแนวกันไฟ หากฝ่าฝืนจนเป็นเหตุให้ลุกลามเป็นไฟป่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่จุดไฟเผาป่าหรือปล่อยให้ลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 150,000 บาท และเป็นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้จะเป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดเผยอีกว่า ในเขตควบคุมไฟป่า ประชาชนต้องให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่าในกรณีที่ทางราชการร้องขอ และหากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใด ให้ช่วยกันดับไฟป่าเสียแต่ต้นเพื่อไม่ให้ไฟขยายออกไปเป็นวงกว้าง หากไฟรุนแรงให้รีบแจ้งหน่วยงานควบคุมไฟป่าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทันที หรือแจ้งสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ โทร.0-4381-1778
..............................สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว