นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ในห้วงระหว่างเดือนธันวาคม ถึงเดือนเมษายนของทุกปี สภาพอากาศของประเทศไทยจะเกิดความแห้งแล้งและมีลมกระโชกแรง ประกอบกับความผันผวนของสภาพภูมิอากาศโลก อันเป็นผลเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการประกอบอาชีพหาของป่า ล่าสัตว์ การทำการเกษตรกรรมใกล้พื้นที่ป่า และการเผาในที่โล่ง ในพื้นที่ชุมชน จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าและหมอกควันได้ง่าย ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากไฟป่าและหมอกควัน จึงกำหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเขตควบคุมไฟป่าและหมอกควัน และกำหนดมาตรการในการป้องกันไฟป่าไว้ ดังนี้
เมื่อมีความจำเป็นต้องเผาไร่ วัชพืชที่ดินทำกิน ให้ราษฎรผู้ครอบครองที่ดินต้องขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองนั้น ๆ ก่อนที่จะดำเนินการทุกครั้ง พร้อมกับต้องจัดทำแนวกันไฟและควบคุมไฟมิให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้ โดยประสานงานกับสถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือหน่วยงานใกล้เคียงที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดเจ้าหน้าที่คอยควบคุมในการดำเนินดังกล่าว
หากราษฎรไม่แจ้งขออนุญาตต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือขออนุญาตแล้ว แต่ไม่จัดทำแนวกันไฟและมิได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ที่ตนครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามกลายเป็นไฟป่าและหมอกควัน ให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแจ้งต่อนายอำเภอท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ราษฎรที่ฝ่าฝืนหรือปล่อยปละละเลยโดยเด็ดขาดทุกราย โดยเฉพาะราษฎรที่บุกรุกเข้าไปแผ้วถางป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จังหวัดจะพิจารณาใช้นโยบายอพยพราษฎรผู้บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวออกจากพื้นที่ตามที่เห็นสมควรและจะดำเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้น
ในเขตควบคุมไฟป่าและหมอกควัน ราษฎรจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่าในกรณีที่ทางราชการร้องขอ และหากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใดให้ช่วยกันดับไฟเสียแต่ต้น เพื่อไม่ให้ไฟขยายออกไปเป็นวงกว้าง หากไฟรุนแรงไม่สามารถดับไฟได้ ให้รีบแจ้งสถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดกาฬสินธุ์ทางโทรศัพท์หมายเลข ๐๘ ๙๘๖๓ ๒๘๔๐ หรือหน่วยงานใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าระงับดับไฟป่าทันที
การจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๒ ถึง ๑๕ ปี และปรับตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ ถึง ๑๕๐,๐๐๐ บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๒๐ ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใด ๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปี และปรับไม่เกิน ๑๔,๐๐๐ บาท กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ถือเป็นหน้าที่ ต้องสอดส่องดูแลให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามประกาศอย่างเข้มงวด
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว