นายประพาส บุญสุข เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในช่วงปลายฝน ต้นหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่ข้าวกำลังออกรวง และเก็บเกี่ยวข้าวในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าว ชาวนามักจะประสบปัญหาการระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าว เข้าทำลายทำให้ผลผลิตข้าวลดลง ถ้าโรคเข้าทำลายระยะข้าวออกรวงบริเวณคอรวงจะทำให้คอรวงแห้งเมล็ดข้าวลีบ และถ้าเข้าทำลายตอนรวงข้าวใกล้เก็บเกี่ยว จะปรากฏรอยสีน้ำตาลทำให้รวงข้าวเปราะหักพับง่าย รวงข้าวหล่นเสียหาย ผลผลิตลดลง
เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยอีกว่า โรคไหม้คอรวงข้าวเกิดจากเชื้อรา pyricularia grisea sacc. โดยจะระบาดในช่วงปลายฝน ต้นหนาวที่มีอากาศในช่วงกลางวัยแห้งและร้อน ในตอนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นและความชื้นสูงมีน้ำค้างยาวนานถึงตอนสาย 9-10 ชั่วโมง มักจะระบาดในนาหว่านแห้ง หว่านน้ำตมมากกว่านาดำ เนื่องจากชาวนาหว่านข้าวหนาแน่นการระบายอากาศไม่มี และใช้พันธุ์ข้าวที่อ่อนแอต่อโรค เช่น ข้าว กข 6 ข้าวหอมะลิ 105 ซึ่งปลูกมากในจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงขอเตือนชาวนา ได้ออกตรวจแปลงข้าวและฉีดพ่นเชื้อราไตรโดเดอร์มา เพื่อควบคุมและป้องกันโรคไหม้คอรวงข้าว สำหรับอัตราส่วนผสมใช้เชื้อราไตรโดเดอร์มา 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 200 ลิตร หรือ 100 กรัมต่อน้ำ 1 ปี๊บ กรองเอาเฉพาะน้ำ นำไปฉีดพ่นแปลงนาทุกๆ7วันในเวลาตอนเย็นตั้งแต่ข้าวออกรวงจนถึงข้าวมีเมล็ดแก่ใกล้เก็บเกี่ยว
.................................สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว