ตำรวจภูธรมหาสารคาม
จับกุมแก๊งค์ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ พื้นที่ 4 จังหวัด ทำมาแล้วประมาณ 100 คัน ส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน
(26 เมษายน
60)
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม
พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย
พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เปลี่ยนขำ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กันทรวิชัย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ
นายพงศกร หรือแบงค์ คําเครืออายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 12
บ้านท่าสองคอน ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม และนายภพพล หรือต้น เตือนศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 9
บ้านหนองโจด ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์โตโยต้า รุ่นโคโรล่า
สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กพ 9716 กทม รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีฟ้าขาว
ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประแจบล็อกรูปตัวที พร้อมเหล็กแหลมจำนวน 3 ตัว โดยแจ้งข้อกล่าวหา
ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
พล.ต.ต.อภิศักดิ์
เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วง 3-4
เดือนที่ผ่านมา มีคดีลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่เกิดขึ้นกว่า 30 ครั้ง
ส่วนใหญ่ผู้เสียหายเป็นนิสิต นักศึกษา ที่อาศัยอยู่หอพักในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม
และอำเภอกันทรวิชัย และรถส่วนใหญ่จะเป็นรถรุ่นใหม่ และรถขนาดใหญ่
ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 50,000 บาท ไปจนถึงคันละกว่า 100,000 บาท
โดยแก๊งค์นี้ทำเป็นขบวนการ
ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวก อีก 3 คน คือ นายบุญเกิด ภูมิโชติ
อายุ 38 ปี ราษฎรอำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งค์ นายอดิศร
เชื้อจิตร อายุ 21 ปี และนายเมธี สมประสิทธิ์วิทย์ อายุ 22 ปี โดยนายอดิศร
นั้นถูกจับได้แล้วขณะนี้อยู่ในเรือนจำจังหวัดจันทบุรี ส่วนอีก 2 คน ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับไปแล้ว
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคน
รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุในเขต สภ.เมืองมหาสารคาม สภ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม สภ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด สภ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ และ สภ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น รวมกว่า 100 คัน
โดยจะเลือกก่อเหตุเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีราคาแพง เช่น ยามาฮ่า M-Slaz ยามาฮ่า R-15
, R-3 ฮอนด้า CBR , MSX คาวาซากิ KSR โดยใช้รถยนต์
และรถจักรยานยนต์ของกลางขับตระเวนหารถเป้าหมายตามหอพัก เมื่อพบรถเป้าหมาย นายอดิศร
และนายเมธี จะใช้เหล็กแข็งรูปตัวทีทำลายกุญแจ จากนั้นนายพงศกร และนายภพพล จะขับขี่นำรถไปพักที่บ้านนานกเขียน
ต.หนองโน อ.เมืองมหาสารคาม
เพื่อเปลี่ยนบล็อกกุญแจก่อนที่จะขับขี่ไปส่งยังจุดหมาย ที่อำเภอโนนดินแดง
จังหวัดบุรีรัมย์ โดยนายบุญเกิดเป็นผู้สั่งการ
และติดต่อผู้รับซื้อจากประเทศกัมพูชา
ให้มารับซื้อก่อนจะขนส่งรถไปกัมพูชา
ในราคาคันละ 10,000-20,000 บาท
ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองได้รับค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท
ด้านนางสาวจิราภา แพงไธสง
นิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
กล่าวว่า ได้จอดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูมเมอร์ เอ็กซ์ ที่เพิ่งออกรถใหม่ได้ 4 เดือน ไว้ที่หอพัก
โดยคนร้ายได้เข้ามาโจรกรรมไปเมื่อตอนตีสาม
ของวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา
โดยทางหอพักได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาได้ ซึ่งรถที่หายไปนั้นไม่ได้คืน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า รถถูกส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว อยากถามคนร้ายว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมไม่คิดถึงจิตใจคนอื่นบ้างว่าเขาเดือนร้อน
และพ่อแม่เขาหาเงินมายากลำบาก ต่อไปคงให้เป็นเรื่องของประกัน ที่จะชดใช้ค่าเสียหาย แต่คงไม่ได้เต็มราคารถแน่นอน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
...ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
|