นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายกเทศมนตรีเมืองน่าน รักษาราชการแทนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน และผู้เกี่ยวข้อง พบว่า ขณะตรวจสอบค่า PM10 สูงถึง 186 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งขัดกับหลักสภาพความจริงเมื่อเทียบกับการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยพบว่าบริเวณสิ่งแวดล้อมโดยรอบสถานีตรวจวัดฯ มีการก่อสร้างอาคาร มีรถยนต์ และรถบรทุกปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง วิ่งผ่านบริเวณดังกล่าวหลายเที่ยวต่อวัน อีกทั้งการประเมินเบื้องต้นจาการสังเกต พบว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปสามารถมองเห็นในระยะเกินกว่า 400 เมตร อีกทั้งรัศมี 10 กิโลเมตรจากสถานีตรวจวัดฯ ไม่มีจุดความร้อน หรือ จุด Hotspot เกิดขึ้น จึงคาดว่าเหตุที่ทำให้ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าเกินมาตรฐาน มีเหตุมาจากกิจกรรมการก่อสร้างและการจราจรขนส่งวัสดุก่อสร้าง และมาตรฐานของเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ ด้านนายมานิต ธนะวงศ์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 23 24 เมษายน 2561 ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ตั้งไว้ ณ บริเวณสำนักงานเทศบาลเมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าเท่ากับ 138 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 151 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน ได้ประสานขอความร่วมมือเทศบาลเมืองน่าน ให้ทำการฉีดพ่นน้ำถนนเข้า-ออก และบริเวณก่อสร้าง พร้อมกันนี้ทางสำนักงานฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดไปยัง กรมควบคุมมลพิษ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องดังกล่าวแล้ว