โรคพิษสุนัขบ้าสามารถพบได้ตลอดทั้งปี ซึ่งโรคนี้ยังไม่มีทางรักษาให้หายได้
ผู้ป่วยจะเสียชีวิตทุกรายหากติดเชื้อและมีการแสดงอาการแล้ว สำหรับการป้องกันโรค
ขอแนะนำให้เจ้าของพาสุนัขของตนเองไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
เมื่อสุนัขมีอายุ 2-3 เดือนขึ้นไป และฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี
รวมถึงหากพบเห็นสัตว์ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คือ มีอาการหางตก เดินโซเซ
น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือผู้นำชุมชน
และช่วยกันจับอย่างระมัดระวัง อย่าให้ถูกกัดหรือข่วน จากนั้นกักสัตว์ไว้ดูอาการ 10
วัน หากสัตว์ตายให้นำหัวสัตว์ หรือตัวสัตว์ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์
ต่อไป นอกจากนี้ การขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง ไม่ปล่อยทิ้งเป็นสุนัขจรจัด
ก็เป็นอีกวิธีที่ประชาชนสามารถช่วยรัฐในการแก้ปัญหาได้
และการมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความรุนแรงของโรคพิษสุนัขบ้า
รู้จักวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขกัดหรือทำร้าย ด้วย คาถา 5 ย. "อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห,
อย่าเหยียบสุนัขหรือทำให้ตกใจ,
อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า,
อย่าหยิบชามอาหารขณะสุนัขกำลังกิน
และอย่ายุ่งกับสุนัขนอกบ้านหรือที่ไม่ทราบประวัติ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้สำเร็จ ได้นั้น ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกัน
ทั้งหน่วยงานด้านสาธารณสุข องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และประชาชน เพื่อสร้างระบบ
การติดตามผู้ถูกสุนัขกัดให้มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกคน
ไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ โดยมี อสม.ร่วมกับ
หน่วยงานท้องถิ่นติดตามผู้ถูกสุนัขกัดทุกคน ให้ไปพบแพทย์
เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าก่อน
ไม่ให้ตัดสินใจด้วยตนเองว่าสุนัขนั้นไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน
กรมควบคุมโรค โทร 1422