นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี
ทรงมีพระปณิธานเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาท ว่า "ทรงห่วงใยปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติ
โดยมีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทย
และเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา ของ ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560
รัฐบาลเห็นสมควรขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ "สัตว์ปลอดโรค
คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า โดยมี
คณะกรรมการจากสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงมหาดไทยร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา
ตั้งแต่ปี 2556-2558 พบปัจจัยสำคัญของผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า คือ
การไม่ดูแลรักษาบาดแผลหลังสัมผัสโรค ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
หรือฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วน
และยังพบว่าผู้สัมผัสโรคทั้งหมดจะเสียชีวิตหลังสัมผัสโรคไม่เกิน 1 ปี
โดยข้อมูลในปี 2558 จากกรมควบคุมโรค
ได้สำรวจความรู้และทัศนคติของประชาชนเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 3,024 ตัวอย่าง พบประชาชนมีความรู้ความเข้าใจไม่ถูกต้องเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า
เช่น คิดว่าโรคพิษสุนัขบ้ารักษาได้ ร้อยละ 32.4 มีการล้างแผล ใส่ยา
ไปหาหมอเมื่อถูกสัตว์กัดข่วน ร้อยละ 39.6
ทั้งนี้ในปี
2559 พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า 15 รายซึ่งมากกว่าปี 2558
ที่มีผู้เสียชีวิต 5 ราย นอกจากนี้ยังพบสถานการณ์โรคในสัตว์มีความรุนแรงมากขึ้น
และมีพื้นที่ 3 กลุ่มจังหวัดที่พบโรคพิษสุนัขบ้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นได้แก่
1.กรุงเทพมหานครและจังหวัดในภาคตะวันออกซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพ
2.กลุ่มจังหวัดสงขลาและพื้นที่รอบจังหวัดสงขลา
3.กลุ่มจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นพ.โสภณ เปิดเผยต่อไปว่า เพื่อสนองพระปณิธาน ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กระทรวงสาธารณสุข
จึงได้ดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ตามมาตรการเชิงรุกป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในปี
2560 โดยแบ่งออกเป็น 3 มาตรการ คือ 1.มาตรการด้านการป้องกันโรค
เช่น ทำแผนป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เสี่ยงและพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรค
ระบบข้อมูลให้มีความครอบคลุมรวมไปถึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับมีความรู้ในการวินิจฉัยดูแลผู้สัมผัสโรคอย่างถูกต้อง 2.มาตรการด้านค้นหาและตรวจจับความผิดปกติ
เช่น ค้นหาติดตามผู้สัมผัสโรคให้มารับการฉีดวัคซีนทุกรายภายใน 48
ชั่วโมงและใช้มาตรการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้และตระหนักถึงการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าอย่างต่อเนื่องตามแนวทางที่กำหนด
ร้อยละ 100 หลังสัมผัสโรค 3.มาตรการด้านตอบโต้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เช่น
กรณีพื้นที่ตรวจพบผู้ป่วยสงสัยหรือเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าหรือหัวสัตว์ให้ผลบวกต่อเชื้อพิษสุนัขบ้า
หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องรีบลงพื้นที่เพื่อสอบสวนและควบคุมโรคร่วมกันโดยการบูรณาการของแต่ละหน่วยงานร่วมกัน
เช่น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต สสจ. สสอ. รพ.สต อสม. วิทยุชุมชน
รวมไปถึงสื่อท้องถิ่น