นายวีรัส
ประเศรษโฐ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.)
ได้ติดตามสภาวะอากาศปริมาณฝนสะสม ปริมาณน้ำท่า และพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
เชิงพื้นที่จากข้อมูลที่เกี่ยวข้องพบว่า ช่วงที่ผ่านมาทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกหนัก อย่างต่อเนื่อง
ทำให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
โดยขณะนี้ศูนย์เฉพาะกิจติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ กฟผ.ได้มีประกาศฉบับที่ 1/2561 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2561
แจ้งเรื่องการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ โดยจะระบายน้ำวันละ 53 ล้าน
ลบ.ม. ในระหว่างวันที่ 23-27 สิงหาคม 2561 และประกาศกรมอุตุนิยม ฉบับที่ 29
(402/2561) ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2561 แจ้งว่าหย่อม ความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชั่น
"เบบินคา (BEBINCA)
ได้เคลื่อนออกจากบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยเข้าปกคลุมประเทศเมียนมาแล้ว
ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง
รวมถึงกรมทรัพยากรธรณี ได้มีประกาศฉบับที่ 12/2561 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2561 เวลา
16.00 น. ให้เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยง
โดยให้จังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์โดยเฉพาะดินถล่มอย่างใกล้ชิด
รวมถึงติดตามปริมาณฝนสะสมที่ตกในพื้นที่ ที่อาจส่งผลให้บริเวณที่ลุ่มต่ำ
พื้นที่ริมแม่น้ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่เดิม
และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ในเกณฑ์มากซึ่งจะต้องทำการระบายน้ำเพิ่มขึ้น
อาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบ
จากการระบายน้ำในเขื่อนระหว่างวันที่ 23-27 สิงหาคม 2561 เขื่อนวชิราลงกรณ
จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอไทรโยค
อำเภอท่าม่วง อำเภอท่ามะกา อำเภอด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเมือง
จังหวัดราชบุรีขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
หากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี
ทราบภายใน 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรสาร 032-332574-5 (แฟกซ์อัตโนมัติ) สอบถามโทร
032-332571-3