นายชยาวุธ จันทร
ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26
มีนาคม 2563 อันเนื่องจากขณะนี้ได้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปแล้ว
และนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่
25 มีนาคม 2563 ในข้อ 4 การห้ามกักตุนสินค้า โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26
มีนาคม 2563
ดังนั้นเพื่อให้การกำกับดูแลราคาสินค้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีปริมาณเพียงพอแก่ประชาชน
จังหวัดราชบุรีจึงออกประกาศให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ดังนี้
ข้อ
1 ห้ามผู้ใดกักตุนสินค้าซึ่งเป็นยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม
หรือสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
พ.ศ.2542 หรือไม่ก็ตาม
ข้อ
2 การตั้งราคาสินค้าตามข้อ 1 ต้องเหมาะสมและเป็นธรรม
ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยอาศัยสถานการณ์
ข้อ
3 ปิดป้ายแสดงราคาตามข้อ 1 ให้แสดงราคาต่อหน่วยเป็นตัวเลขไทยหรืออารบิคโดยแสดงไว้ที่สินค้าที่จำหน่าย
หรือบริเวณใกล้เคียงสินค้านั้น ในลักษณะที่เห็นได้ชัดเจนและเปิดเผยสามารถอ่านได้โดยง่าย
ข้อ
4 ให้จำหน่ายไม่สูงเกินราคาที่แสดงไว้
ทั้งนี้
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า จะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
กรณีฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรมและกักตุนสินค้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 7
ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากเห็นผู้กระทำความผิด
หรือถูกเอารัดเอาเปรียบแจ้งได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี โทร.032-315046,032-315450
หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี โทร.032-332062
,09-2962-3272 และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุกอำเภอ