บริษัทเอกชนลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก หลุมสำรวจ YPT8 จังหวัดบุรีรัมย์ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสุรินทร์

          วันที่ 16 มิ.ย.60 ที่ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี (ชั้น 3) ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นางสาวดวงพร บุญครบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสำรวจหมายเลข L31/50 หลุมสำรวจ YPT8 จังหวัดบุรีรัมย์ ของบริษัท ย่านฉาง ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อชี้แจงโครงการกับกลุ่มเป้าหมายคือหน่วยงานราชการระดับจังหวัด เกี่ยวกับขอบข่ายการดำเนินโครงการ แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระยะก่อสร้างและระยะดำเนินการ พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานราชการเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ 

          ทั้งนี้ บริษัท ย่านฉาง ปิโตรเลียม(ไทยแลนด์)จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมในพื้นที่แปลงสำรวจหมายเลข L31/50 มีแผนการดำเนินการเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก หลุมสำรวจ YPT8 ตั้งอยู่ที่บ้านยางทะเล ตำบลแคนดง อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ และมีขอบเขตพื้นที่ตั้งโครงการในรัศมี 5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านกระท่ม บ้านเมืองไผ่ ตำบลเมืองบัว และบ้านตลิ่งชัน ตำบลสระขุด ซึ่งการดำเนินโครงการ บริษัท ย่านฉาง ปิโตรเลียม(ไทยแลนด์)จำกัด  ต้องลงพื้นที่ศึกษาโครงการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยการกำหนดจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 ครั้ง  เพื่อสรุปเป็นข้อมูลรายงานขอความเห็นชอบจาก สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ต่อไป         

       อย่างไรก็ดี ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้จากโครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก หลุมสำรวจ YPT8 จังหวัดบุรีรัมย์  ในกรณีที่เจาะแล้วพบว่ามีปริมาณก๊าซธรรมชาติคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ บริษัทจะพัฒนาเป็นพื้นที่ผลิตต่อไป ประโยชน์จะเกิดต่อประเทศสามารถนำทรัพยากรด้านพลังงานที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมจะมีรายได้จากการเก็บค่าภาคหลวง ซึ่งเป็นรายได้ที่สามารถนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นต่อไป

สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.สุรินทร์/ข่าว  กำชัย วันสุข /ภาพ