พสกนิกรชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม
วันที่ 13 ต.ค.61 เวลา 19.00 น. ที่ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีจุดเทียน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ที่สวมใส่เสื้อเหลือง เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
โดยในพิธีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ประธานในพิธีได้นำถวายบังคมเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 3 ครั้ง จากนั้นได้กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทย ต่อจากนั้นได้ร่วมกันจุดเทียน แสงเทียนสว่างไสวไปทั่วบริเวณ พร้อมทั้งได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเวลา 89 วินาที ดนตรีบรรเลงเพลง "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ นับจากพระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นต้นมา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอด 70 ปี ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงงานอย่างหนัก ทรงเสด็จไปในทุกพื้นที่ถิ่นฐานทุรกันดาร แม้จะห่างไกลเพียงใด แต่ไม่มีสถานที่ใดที่พระองค์เสด็จฯ ไปไม่ถึง ทั้งหมดเพื่อให้พสกนิกรของพระองค์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทย ทั้งทรงจัดตั้ง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ โดยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญที่สุดจนทำให้พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทย คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระองค์ได้ปฏิบัติพระองค์เองเป็นแบบอย่าง